แชร์บทความนี้

วิธี คํานวณ น้ําเกลือ สุนัข

การคำนวณปริมาณน้ำเกลือที่เหมาะสมสำหรับสุนัขเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ควรทำเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ เนื่องจากสุนัขแต่ละตัวมีความต้องการน้ำเกลือต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น น้ำหนัก อายุ โรคประจำตัว ระดับความรุนแรงของอาการ

การคำนวณน้ำเกลือสำหรับสุนัขโดยทั่วไป

(ข้อมูลนี้เป็นเพียงแนวทางคร่าวๆ ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและคำนวณที่ถูกต้อง)

1. ประเมินภาวะขาดน้ำ:

ไม่มีภาวะขาดน้ำ: ต้องการน้ำเกลือเพื่อคงสภาพร่างกาย (maintenance) ประมาณ 60-100 มล./กก./วัน
ขาดน้ำเล็กน้อย (5%): สังเกตจากเหงือกแห้งเล็กน้อย ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น ซึมลงเล็กน้อย
ขาดน้ำปานกลาง (6-8%): เหงือกซีด ตาโหล ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นมาก ซึม หัวใจเต้นเร็ว
ขาดน้ำรุนแรง (10-12%): เหงือกซีดมาก ชีพจรเบาเร็ว อ่อนแรง ช็อก

2. คำนวณปริมาณน้ำเกลือที่ต้องการ:

น้ำหนัก: ชั่งน้ำหนักสุนัขเป็นกิโลกรัม
ปริมาณน้ำเกลือ: ใช้สูตร
- Maintenance: 60-100 มล./กก./วัน
- ทดแทนการขาดน้ำ: % การขาดน้ำ x น้ำหนักตัว (กก.) x 10 = ปริมาณน้ำเกลือ (มล.) เช่น สุนัขหนัก 10 กก. ขาดน้ำ 5% ต้องการน้ำเกลือ 5 x 10 x 10 = 500 มล.
รวมปริมาณน้ำเกลือทั้งหมด: ปริมาณ Maintenance + ปริมาณทดแทนการขาดน้ำ

3. เลือกชนิดของน้ำเกลือ:

Lactated Ringer’s Solution (LRS): เหมาะสำหรับสุนัขส่วนใหญ่ ใช้ทดแทนการขาดน้ำ และอิเล็กโทรไลต์
0.9% Normal Saline Solution (NSS): ใช้ในกรณีที่โซเดียมในเลือดต่ำ หรือมีภาวะคลอไรด์ในเลือดสูง
Dextrose solutions: ใช้ในกรณีที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ

4. กำหนดอัตราการไหล:

ขึ้นอยู่กับสภาพของสุนัข และชนิดของน้ำเกลือ สัตวแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน และสั่งอัตราการไหลที่เหมาะสม

ตารางเปรียบเทียบชนิดของน้ำเกลือ

ชนิด	ส่วนประกอบ	ข้อดี	ข้อควรระวัง
LRS	โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม คลอไรด์ แลคเตท	ใกล้เคียงกับของเหลวในร่างกาย	ไม่เหมาะกับสุนัขที่เป็นโรคตับ
NSS	โซเดียม คลอไรด์	ราคาถูก หาซื้อง่าย	อาจทำให้เกิดภาวะ hyperchloremic metabolic acidosis
Dextrose solutions	น้ำตาลกลูโคส	ให้พลังงาน	ไม่เหมาะกับสุนัขที่เป็นเบาหวาน

ข้อควรระวัง

ห้ามให้ น้ำเกลือ กับสุนัขเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์
การให้ น้ำเกลือ ที่มากเกินไป หรือเร็วเกินไป อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
สังเกตอาการสุนัขอย่างใกล้ชิด ระหว่างการให้ น้ำเกลือ เช่น อาการบวม หายใจลำบาก ไอ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ แต่ย้ำอีกครั้งว่าควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อการวินิจฉัย และรักษาที่ถูกต้อง